กระแสตอบรับอย่างดียิ่งจากการเข้าร่วมงานประชุมวิชาการและการจัดแสดงสินค้า “LIVESTOCK 2014 MYANMAR EXPO” ณ TATMADAW EXHIBITION HALL สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 23-25 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ ทั้งในกลุ่มยา Non-Penicillin และ Penicillin & Cephalosporin ที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตยาที่ใช้มาตรฐานการผลิตที่ทันสมัย การผลิตยาที่ได้คุณภาพในระดับพรีเมี่ยม มีมาตรฐานสากลเทียบเท่ามาตรฐานยุโรป EU GMP (GMP PIC/S) รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงและสัตว์รบกวน ผลิตภัณฑ์พรีมิกซ์ ผลิตภัณฑ์เหยื่อกำจัดหนู เรียกได้ว่า “ครบครันทุกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสัตว์ ทั้งสัตว์ปีก สัตว์น้ำ และสุกร” นำโดยทีมผู้บริหารและฝ่ายวิชาการที่คอยให้ความรู้ในด้านผลิตภัณฑ์ต่างๆ แก่ผู้เยี่ยมชมให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด
จุดแข็ง/โอกาสทางธุรกิจในสหภาพเมียนมาร์ | |
---|---|
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ หรือ เมียนมาร์ เป็นหนึ่งในประเทศที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจมากรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งปัจจัยที่ดึงดูดในการลงทุนและขยายตลาดในเมียนมาร์ ได้แก่ | |
1. มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ทั้งแหล่งก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเลียม ป่าไม้ แหล่งน้ำ และสภาพภูมิอากาศที่เหมาะแก่การผลิตสินค้าเกษตร 2. ค่าจ้างแรงงานโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน 3. นโยบายของรัฐบาลเมียนมาร์ที่สนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในภาคเกษตรกร โดยผ่านนโยบายการขยายระบบชลประทานของภาครัฐ และการส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก 4. นักลงทุนต่างชาติสามารถเช่าที่ดินได้ในระยะยาวถึง 50 ปี แต่ไม่สามารถซื้อที่ดินได้ 5. ประตูการค้าโลก เมียนมาร์มีทำเลที่ตั้งเป็นประตูการค้าเชื่อมต่อกับ 5 ประเทศ อาทิเช่น จีน อินเดีย ลาว ไทย และบังกลาเทศ ในอนาคตการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคมีการพัฒนาให้ครอบคลุมทั่วถึงกันมากขึ้น ยิ่งส่งผลให้การค้าชายแดนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มเม็ดเงินเข้าประเทศ |
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนเศรษฐกิจและดึงดูดประเทศเพื่อนบ้านให้เข้าร่วมลงทุน และจากการเปิดประเทศของเมียนมาร์ยิ่งเปิดโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโต ทั้งด้านอาหารสัตว์ ปศุสัตว์ ประมง และ ยาสัตว์ เป็นต้น