นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด

 

นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการใช้กล้องวงจรปิด CCTV

CCTV Policy

 

 

นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการใช้กล้องวงจรปิด CCTV

CCTV Policy

 

นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการใช้กล้องวงจรปิด CCTV

CCTV Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จำกัดและบริษัทฯ ในเครือ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า บริษัท เรา หรือ ของเรา) ได้ใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบบริเวณอาคารสถานที่ของบริษัทฯ เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใดๆ ก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใดๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องวงจรปิดในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงประกาศ เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อ มูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จำกัดและบริษัทฯ ในเครือ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า บริษัท เรา หรือ ของเรา) ได้ใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบบริเวณอาคารสถานที่ของบริษัทฯ เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใดๆ ก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใดๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องวงจรปิดในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงประกาศ เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อ มูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)

ขอบเขตนโยบาย ครอบคลุม

1. วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
2. เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง
การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรือ อาชญากรรมอื่น
3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
4. เพื่อให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
6. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่งซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่
กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้
เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้

  • หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย
    หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่างๆ
  • ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
    ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น

ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

     เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย

 สิทธิของท่าน

     พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
   3.1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์
        และเป็นปัจจุบัน
   3.2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
   3.3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมด.ความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวมแต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่านใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องจากการที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
   3.4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม

4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

     บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควรโดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

รายละเอียดการติดต่อบริษัท

  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จํากัด สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 333/12-13 หมู่ 9 ถ.บางบัวทอง-
    สุพรรณบุรี ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
  • กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อเบอร์ 02-9644912-4 หรือ e-mail :
    dpo@biccorporation.co.th
 

ขอบเขตนโยบาย ครอบคลุม

1. วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
2. เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง
   การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรือ อาชญากรรมอื่น
3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
4. เพื่อให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
6. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่งซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่.           เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่
กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้
เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้

  • หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย
    หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่างๆ
  • ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
    ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น

ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

     เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการ
ลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย

 สิทธิของท่าน

     พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
   3.1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์
        และเป็นปัจจุบัน
   3.2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
   3.3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมด.ความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม
        แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
        ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้
        หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องจากการที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม
        ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
   3.4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม

4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)

มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  1. เราจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ
    CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง
    หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. เราจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของเราเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น
    หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
    สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด

     บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควรโดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

รายละเอียดการติดต่อบริษัท

  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จํากัด สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 333/12-13 หมู่ 9 ถ.บางบัวทอง-สุพรรณบุรี
    ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
  • กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อเบอร์ 02-9644912-4 หรือ
    E-mail: dpo
    @biccorporation.co.th