![](https://biccorporation.co.th/storage/2023/01/security_cameras_dreamstime1-1.jpg)
นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด
![](https://biccorporation.co.th/storage/2023/01/security_cameras_dreamstime1-1.jpg)
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการใช้กล้องวงจรปิด CCTV
CCTV Policy
![](https://biccorporation.co.th/storage/2023/01/security_cameras_dreamstime1-1.jpg)
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการใช้กล้องวงจรปิด CCTV
CCTV Policy
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการใช้กล้องวงจรปิด CCTV
CCTV Policy
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จำกัดและบริษัทฯ ในเครือ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า บริษัท เรา หรือ ของเรา) ได้ใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบบริเวณอาคารสถานที่ของบริษัทฯ เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใดๆ ก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใดๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องวงจรปิดในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงประกาศ เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อ มูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จำกัดและบริษัทฯ ในเครือ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า บริษัท เรา หรือ ของเรา) ได้ใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบบริเวณอาคารสถานที่ของบริษัทฯ เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใดๆ ก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใดๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องวงจรปิดในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงประกาศ เรื่อง นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อ มูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
ขอบเขตนโยบาย ครอบคลุม
1. วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
2. เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง
การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรือ อาชญากรรมอื่น
3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
4. เพื่อให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
6. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่งซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่
กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้
เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย
หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่างๆ - ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย
สิทธิของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
3.1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์
และเป็นปัจจุบัน
3.2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
3.3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมด.ความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวมแต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่านใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องจากการที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม
4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควรโดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
รายละเอียดการติดต่อบริษัท
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จํากัด สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 333/12-13 หมู่ 9 ถ.บางบัวทอง-
สุพรรณบุรี ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110 - กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อเบอร์ 02-9644912-4 หรือ e-mail :
dpo@biccorporation.co.th
ขอบเขตนโยบาย ครอบคลุม
1. วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
2. เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง
การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรือ อาชญากรรมอื่น
3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
4. เพื่อให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
6. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่งซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่. เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่
กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้
เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย
หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่างๆ - ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต
ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการ
ลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย
สิทธิของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
3. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
3.1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์
และเป็นปัจจุบัน
3.2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
3.3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมด.ความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม
แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องจากการที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม
4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)
มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- เราจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ
CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง
หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต - เราจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของเราเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น
หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิด
บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควรโดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
รายละเอียดการติดต่อบริษัท
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัท บิ๊ค คอร์ปอเรชั่น จํากัด สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 333/12-13 หมู่ 9 ถ.บางบัวทอง-สุพรรณบุรี
ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110 - กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อเบอร์ 02-9644912-4 หรือ
E-mail: dpo@biccorporation.co.th